E-Commerce นี้เป็นคำที่คุ้นหูและรู้จักกันทั่วไป E-Commerce เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคที่การสื่อสารไร้พรมแดนอย่างปฎิเสธไม่ได้ E-commerce ก็คือการซื้อขายผ่านสื่ออิเล็กทรอนิก โดยมีจุดเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1970 โดยเริ่มใช้จากการโอนเงินระหว่างหน่วยงานใหญ่ก่อน ในเชิงธุรกิจแล้ว E-Commerce มีข้อดีมากมายได้แก่
1 ลดค่าใช้จ่าย
ทั้งลูกค้าและผู้ขายสินค้าได้รับประโยชน์จาก E-Commerce ในการลดค่าใช้จ่ายทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ขายหรือเจ้าของธุรกิจ สามารถลดต้นทุนทั้งการเช่าหน้าร้าน การจ้างพนักงานจำนวนมาก เช่นพนักงานหน้าร้าน พนักงานส่งของ แคชเชียร์ ลดต้นทุนในการประชาสัมพันธ์ ร้าน สำหรับลูกค้าเองก็ลดค่าใช้จ่ายที่จะต้องเดินทางไปหาซื้อ บางครั้งอาจต้องผ่านนายหน้า หรือการจ่ายราคาค่าสินค้าที่แพงกว่าเมื่อซื้อจากหน้าร้านเพราะต้นทุนที่สูงกว่า เป็นต้น
2 ประหยัดเวลา
E-Commerce ช่วยให้การซื้อขายและการทำธุรกรรมต่างๆ ทางธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วและประหยัดเวลา ผู้ขายสามารถขายสินค้าโดยไม่ต้องเสียเวลาในการหาลูกค้าแบบตัวต่อตัว เป็นอิสระในเรื่องเวลาไม่ต้องคอยเฝ้าหน้าร้านเมื่อมีโปรแกรมรูปแบบการขายสินค้าอัตโนมัตไว้แล้ว ทุกอย่างสามารถดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นระบบด้วยตัวเอง ในขณะที่ลูกค้าเองก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังร้านเพื่อเลือกซื้อสินค้า สามารถเลือกซื้อได้ทันทีที่ต้องการและยังโอนเงินผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที ธุกิจจึงเกิดขึ้นครบกระบวนการและเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว
3 ไม่จำกัดเวลาในการซื้อและขาย
การทำธุรกิจในรูปแบบ E-Commerce เป็นการทำลายกรอบความจำกัดในเรื่องเวลา ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำการซื้อขายสินค้ากันได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะในโลกออนไลน์การซื้อขายไม่ต้องมีเวลาเปิดปิดของร้าน ไม่จำเป็นที่จะต้องสื่อสารกัน Real Time เสมอไป
4 เพิ่มโอกาสและช่องทางในการขาย
จากที่อดีตการซื้อขายจำกัดอยู่ในโลกความเป็นจริงที่ถูกบีบในกรอบของสถานที่และเวลาและต้นทุน การซื้อขายจึงจำกัดวงแคบๆ เมื่อมี E-Commerce ช่องทางการค้าขายจึงขยายมากขึ้น ทั้งการซื้อขายที่ไร้พรมแดน คนในซีกโลกที่ไกลออกไปก็สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการจากอีกทวีปได้ด้วยการท่องอินเตอร์เนตและมีปฎิสัมพันธ์ตกลงซื้อขายกันได้เลย ธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่มีการแข่งขันที่เท่าเทียมกันจากเดิมที่ธุรกิจขนาดใหญ่จะได้เปรียบในด้านการตลาด ทั้งการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าการเลือกทำเลของร้าน แต่เมื่อกลายเป็น E-Commerce แล้วทั้งธุรกิจขนาดเล็กและใหญ่ก็มีโอกาสที่จะเติบโตและทำการตลาดได้ไม่แพ้กัน
5 เกิดความสะดวกทั้งการซื้อและการขาย
การสื่อสารที่ทันสมัยทำให้ช่องทางการซื้อขายเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว ผู้ซื้อสามารถสั่งซื้อผ่านโลกออนไลน์ในขณะที่ผู้ขายก็ได้นำเสนอสินค้าของตนผ่านหน้าจอ มีการโอนชำระกันผ่านระบบอิเล็กโทรนิกส์ได้อย่างง่ายดาย
ทั้งหมดนี้จึงทำให้แนวโน้มการขยายตัว ความเติบโตของ E-Commerce จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีบทบาทสำคัญในโลกธุรกิจในอนาคตต่อไปอีกนานแสนนาน จนกว่าจะมีเทคโนโลยีที่ใหม่และทันสมัยกว่ามาแทนที่